Tuesday, November 17, 2009

วิธีการเลือก อาหารสุนัข และ แมว

วิธีการเลือก อาหารสุนัข และ แมว

           1.  ผ่านการรับรองแล้วจากกรมปศุสัตว์

ขณะนี้อาหารสุนัขทุกประเภทจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนจากกรมปศุสัตว์

ไม่ว่าจะเป็นอาหารสุนัขสำเร็จรูปจากต่างประเทศหรือผลิตในไทยเองก็ตาม

จะต้องดูที่ฉลากข้างกระป๋อง หรือข้างถุงว่ามีทะเบียนอาหารสัตว์ถูกต้องหรือไม่เป็นสำคัญ

เพราะหากไม่มีเลขทะเบียน แสดงว่าอาหารนั้นไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์

ซึ่งอาจไม่ได้คุณภาพตามที่ได้ระบุไว้ที่ข้างถุง

ดังนั้น ขอให้ตรวจสอบฉลากว่ามีทะเบียนอาหารสัตว์ในฉลากเป็นสำคัญ

ถ้าไม่เป็นเลขทะเบียนก็ไม่ควรซื้อนะครับ

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับอาหารต่างประเทศนั้นยังมีอีก 1 ตัวช่วย

คือให้ดูการรับรองของหน่วยงานระหว่างประเทศด้านอาหารสุนัข

นั้นคือ “การรับรองจาก AAFCO” ซึ่งถ้ามีข้อนี้ยิ่งสมบูรณ์แบบมากๆ

            2. หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปชนิดแบ่งขายที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

อาหารแบ่งขายมักจะไม่มีฉลาก ทำให้การตรวจสอบที่มาที่ไปได้ลำบาก

การเก็บรักษาก็ไม่ค่อยเรียบร้อย

            3. คำนึงถึงแหล่งโปรตีนที่ใช้ทำอาหาร

โปรตีนที่ใช้ในการทำอาหารสัตว์มักมาจากหลายแหล่ง

โดยเฉพาะโปรตีนที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น เศษเนื้อไก่ หมู วัว เป็นต้น

โปรตีนจากเศษเนื้อย่อมสู้โปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ชนิดเดียวโดยตรงไม่ได้

            4.  คำนึงคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ทำอาหาร

นอกจากโปรตีนแล้ว สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ซึ่งได้แก่ แป้งกับน้ำตาลนั้น

ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาแพ้อาหารไม่แพ้โปรตีนเหมือนกัน โดยเฉพาะในกลุ่มแป้ง

ซึ่งผู้ผลิตมักนิยมใช้ข้าวโพดเป็นสำคัญ ซึ่งเจ้าข้าวโพดนี้เองมักก่อให้เกิดปัญหาแพ้อาหารได้สูง

จึงควรหลีกเลี่ยงโดยเลือกชนิดที่มีข้าวเป็นองค์ประกอบจะดีกว่านะครับ เพราะสุนัขไม่ค่อยแพ้

             5.  ใช้สารกันบูดชนิดใด? ในการถนอมอาหาร

อาหารสุนัขสำเร็จรูปทุกชนิดจะต้องใส่สารถนอมอาหาร หรือสารกันบูดในอาหารด้วยกันทั้งนั้น

เพื่อถนอมอาหาร หรือเรียกง่ายๆ ใส่เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน ซึ่งเจ้าสารกันบูดนี้

ปัจจุบันมีทั้งชนิดที่สังเคราะห์จากสารเคมี และชนิดที่ได้จากธรรมชาติ เช่น วิตามินซี และ อี

ซึ่งปัจจุบันกระแสธรรมชาติกำลังมาแรง ถ้าท่านใดนิยมกระแสธรรมชาติก็เลือกอาหารให้สุนัขได้ตามที่ชอบๆ นะครับ

            6. เช็ควันหมดอายุเพื่อประกันความสด

วันหมดอายุ หรือ Expired Date ที่มักย่อว่า EXP. Date นั้นแปลว่า ถ้าหลังจากวันนี้ไปแล้ว

แสดงว่าใช้ไม่ได้ เช่น ยาหมดอายุก็ใช้ไม่ได้แล้ว แสดงว่าเสื่อมคุณภาพ ไม่ควรใช้ในการรักษา

เช่นเดียวกับอาหารสัตว์ที่หมดอายุฉันใดก็ฉันนั้น

แต่มีอีกประเภทที่เขียนไว้ข้างถุงว่า Best before คำนี้หมายถึงว่า

“อาหารนี้จะดีที่สุดถ้าให้หมากินก่อนวันที่….” นั้นแปลว่า

ถ้าหลังจากวันที่…ไป ความดีของอาหารนี้ก็จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ

ซึ่งอย่างดีก็ ถ้าเจอเจ้าวันที่ Best Before…. ก็อย่าไปซื้อเลย เพราะคุณค่าอาหารลดลงไปแล้วครับ

            7.  กลิ่นอาหาร เมื่อท่านเปิดถุงอาหารแล้วพบกลิ่นเหม็นหืนโชยเข้าจมูก

ก็ขอให้รีบนำไปคืนหรือทิ้งไป เพราะแสดงว่าอาหารเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว

            8.  เปลี่ยนอาหารตัวใหม่ต้องใจเย็นๆ

เมื่อท่านตัดสินใจจะเปลี่ยนอาหารยี่ห้อใหม่ หรือยี่ห้อเดิมแต่สูตรใหม่ก็ตาม

ไม่แนะนำให้เปลี่ยนแบบผลีผลามด้วยการให้กินอาหารตัวใหม่เพียงอย่างเดียวล้วนๆ

เพราะจะมีผลต่อระบบย่อยอาหารของสุนัขได้ ขอแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ค่อยเป็นค่อยไป

โดยค่อยๆ เพิ่มอาหารตัวใหม่ ทีแรกประมาณหนึ่งในสามส่วน บวกกับอาหารตัวเก่า สองในสามส่วน

ให้กินประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มอาหารตัวใหม่พร้อมทั้งลดอาหารตัวเก่าไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งสามารถถอดอาหารตัวเก่าออกจากเมนูประจำวันได้ในที่สุด

            9.  เฝ้าระวังอุจจาระหมาเมื่อเปลี่ยนอาหารใหม่

นอกจากจะต้องค่อยๆ เปลี่ยนอาหารตัวใหม่ตามข้อ 8 แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าติดตามคือ

อุจจาระของสุนัขที่ออกมาด้วย ซึ่งควรอยู่ในสภาพไม่แข็งไม่เหลวจนเกินไป

เรียกง่ายๆ ว่าถ่ายเป็นปกติ ไม่ท้องผูกหรือท้องเสียนั่นเอง

          10.  ติดตามดูน้ำหนักตัวและขนตลอดเวลา

อาหารใหม่ที่ให้สุนัขตัวโปรดนั้น ถึงแม้จะรสชาติดี หมาชอบกิน แต่พบว่า กินแล้วน้ำหนักลด หรือขนร่วง

ก็ไม่ควรให้กิน เพราะแสดงว่าคุณภาพไม่ดี แนะนำให้เปลี่ยนอาหารนะครับ

          11.  หลีกเลี่ยงอาหารที่พิสดารเหนือการคาดเดา

หากท่านเกิดไปเจออาหารพิสดาร สูตรแปลกๆ ที่ไม่เคยพบเคยเห็น แล้วเกิดปิ๊งขึ้นมาว่า

น่าจะลองให้หมากินเพื่อรสชาติแปลกใหม่ ถ้าหากไม่มีรายงานทางการแพทย์ยืนยันว่าไม่มีผลเสียต่อสุขภาพสัตว์ประการใด

ก็ขออนุญาตอย่าลองเลยนะครับ ซึ่งหากสงสัย หรือไม่มั่นใจก็ขอให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนบริโภค

          12.  ที่เก็บอาหารก็ต้องทำให้ดี

ถึงแม้ท่านจะซื้ออาหารดีอย่างไร แพงระยับอย่างไร แต่ท่านนำมาตากแดดตากลม

รับรองอาหารนั้นจะเสียเร็วกว่าที่คิดไว้มาก ซึ่งที่ตามมาก็คือ อาหารจะเหม็นหืนและหมาจะไม่ยอมกิน

ดังนั้นจึงควรมีภาชนะที่ใส่อาหารที่มีฝาปิดอย่างดีเพื่อกันชื้น ที่สำคัญต้องเก็บในที่แห้งไม่ตากแดด

          13.  ต้องมีน้ำให้กินอย่างสม่ำเสมอ

อย่าลืมนะครับว่า นอกจากอาหารแล้ว เจ้าตูบตัวโปรดก็ยังต้องการน้ำดื่มตลอดเวลา ขาดไม่ได้

คุณภาพน้ำดื่มก็ควรสะอาด ชนิดที่คนก็สามารถกินได้นะครับ อย่างน้อยก็ควรเป็นน้ำประปา

ไม่ใช่น้ำจากบ่อบัว อ่างปลา หรือน้ำคลอง

          14.  ควรซื้อจากร้านขายอาหารสัตว์ที่น่าเชื่อถือ

สำคัญมากไม่แพ้อาหารสัตว์ก็คือ แหล่งจำหน่ายอาหารสัตว์ที่จำเป็นต้องเป็นร้ายที่น่าเชื่อถือ

คนขายวางใจได้ ไม่ใช่ประเภทขาจรตีหัวเข้าบ้าน แวะเวียนมาขายไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง

เพราะหากเกิดปัญหาขึ้น ไม่รู้จะไปเอาเรื่องเอาราวกับใคร

by Thonglorpetcare  PetShop Online

Product Hill’s science diet,Royal Canin,Eukanuba,Chicken Soup,Avoderm,Nutro Choice,Pinnacle,Cesar,Tresor,Esbilac,อาหารสุนัข,อาหารหมา,dog food,puppy,adult,mature,healthy development

No comments:

Post a Comment